วิธีทำการตลาดบน Facebook (Facebook Marketing)
1.Wall Spam คนกลุ่มนี้จะนำข้อความโปรโมทธุรกิจหรือสินค้า ไปโพสโปรโมทบนกระดานข้อความของผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาติจากเจ้าของ... ลองนึกถึงคนที่คุณไม่รู้จักบังเอิญเจอกันริมถนน เดินตรงเข้ามาหาคุณ แล้วยื่นกระปุกอาหารเสริมส่งมาให้คุณ แล้วบอกว่า ซื้อสิ 250 บาทเอง สรรพคุณดีอย่างนั้นอย่างนี้ คุณจะถอยออกมาห่างๆ หรือเอี้ยวตัวหลบ แล้วเดินหนีไปเลย เพราะไม่ไว้ใจ ไม่รู้ว่ามาดีหรือร้าย ไม่มีการทักทาย ไม่มีการแนะนำตัวว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ๆ มาขายของโดยไม่รู้จักกัน เป็นใครก็หนีล่ะ วิธีทำการตลาดแบบนี้ เรียกได้ว่าไม่ฉลาดเอาซะเลยร้าย ไม่มีการทักทาย ไม่มีการแนะนำตัวว่าตัวเองเป็นใคร
2.Tag Spam คนกลุ่มนี้พอจะฉลาดขึ้นมานิดหน่อย เพราะช่วงแรกก็มีคนหลงกลไปเยอะเหมือนกัน คนกลุ่มนี้จะใช้รูปภาพสาวน่ารักๆ บ้าง รูปคนถือเงินบ้าง ถ่ายรูปคู่กับรถหรูบ้าง...ฯลฯ... อัพโหลดขึ้นไปบน Profile ของตน แล้วติด Tag ชื่อเพื่อน (เพื่อนที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้จัก เพราะแอดชื่อไปทั่ว มั่วแหลก) ให้ว่อนไปทั่ว Facebook)
สองข้อข้างบนนี้ เป็นการทำ SPAM บน Facebook ถ้าคุณเป็นผู้ทำสิ่งเหล่านี้ ภาพสะท้อนของคุณก็จะติดลบทันที ผู้คนจะรำคาญสิ่งที่คุณทำ ไม่พอใจคุณ หรือถึงขั้นโพสด่าคุณกลับไปก็มีให้เห็นกันเยอะแยะนะครับ หรืออาจถึงขั้นนัดท้าตีท้าต่อยกันก็เป็นได้ทั้งนั้น เมื่อคุณสร้างความรำคาญ หรือความโกรธแค้นให้แก่ผู้อื่น ใครเขาอยากจะร่วมธุรกิจ หรือซื้อสินค้ากับคุณล่ะ
Facebook Marketing แบบถูกวิธี
Facebook มีเครื่องมือให้เราเลือกใช้อยู่ 3 ส่วน หลักๆ คือ
1.Profile เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล มีระบบตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้สูงมาก
2.Group กลุ่ม คือการรวมตัวของกลุ่มบุคคลที่สนใจในเรื่องเดียวกัน หรือร่วมงานกัน
3.Page คือการสร้างหน้าโปรโมทแบรนด์สินค้า หรือโปรโมทธุรกิจ ที่คุณกำลังทำอยู่ สามารถมองเห็นได้ แม้ไม่ได้ Login (มีความเป็นสาธารณะสูง) กด Like เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวใน Page นั้นๆ (Fan Page)
1.Profile เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล มีระบบตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้สูงมาก
2.Group กลุ่ม คือการรวมตัวของกลุ่มบุคคลที่สนใจในเรื่องเดียวกัน หรือร่วมงานกัน
3.Page คือการสร้างหน้าโปรโมทแบรนด์สินค้า หรือโปรโมทธุรกิจ ที่คุณกำลังทำอยู่ สามารถมองเห็นได้ แม้ไม่ได้ Login (มีความเป็นสาธารณะสูง) กด Like เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวใน Page นั้นๆ (Fan Page)
ทั้ง 3 ส่วนนี้ ดูผิวเผินหน้าตาจะคล้ายๆ กัน จนดูแทบไม่ออก แต่ฟังก์ชั่นการทำงานนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน
Profile
เมื่อคุณสมัคร Facebook ครั้งแรก คุณจะได้โปรไฟล์ส่วนบุคคล (Profile) เป็นชื่อของคุณเอง ส่วนนี้ไม่ใช่ที่สำหรับทำธุรกิจ คุณสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้ในระดับที่ลึกมากขนาดว่า ถ้าไม่ใช่เพื่อน จะไม่มีสิทธิ์เห็นข้อมูลของคุณ หรือแม้แต่เพื่อนบางคนก็ยังไม่สามารถมองเห็น หรือโพสกระดานข้อความของคุณได้เลยด้วยซ้ำหากคุณไม่อนุญาต ถ้าคุณจะเข้าไปดู Profile ของใครสักคน คุณต้อง Login Facebook ก่อน และบางทีเขาอาจจะต้องรับ Add Friend จากคุณก่อนด้วยซ้ำครับ คุณจึงจะเห็น Profile ของเขา ขึ้นอยู่กับการอนุญาตของเขา
หากจะนำมาใช้โปรโมทธุรกิจ ก็จะมีข้อจำกัดอยู่มากมาย เพราะมันไม่ใช่เครื่องมือทำธุรกิจครับ เช่น ไม่มีกราฟแสดงสถิติต่างๆ การส่ง Message หาเพื่อนๆ ก็ส่งได้ไม่เกินครั้งละ 20 คน หรือจะติด Tag ชื่อเพื่อนๆ ในรูป ก็ได้ไม่เกิน 50 ชื่อต่อ 1 รูป และในแต่ละ Profile คุณสามารถมีเพื่อนได้แค่ไม่เกิน 5,000 คน (นี่คือสิ่งที่หลายคนไม่รู้) ซึ่งมันไม่เหมาะในการทำธุรกิจเอาซะเลย... สิ่งเหล่านี้เขามีไว้ให้สำหรับการใช้งานแบบบุคคลปกติ
แต่คนไม่ปกติบางคน ก็ใช้วิธีสมัครหลายๆ Profile แล้วก็นำ Profile เหล่านี้ไปติด tag ชื่อเพื่อนกันเป็นร้อยเป็นพัน โดยการอัพโหลดรูปเดียวกันซ้ำๆ แล้วติด tag รูปละ 50 ชื่อ... ถ้าติด 20 รูป ก็ได้แล้ว 1,000 ชื่อ... แน่นอน คนเห็นเยอะจริง... แต่คนเกลียดคุณก็เยอะขึ้นด้วยไงล่ะ รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าทำนะ หันมาใช้ของให้ถูกประเภทกันดีกว่า
Profile มีไว้ให้คุณสื่อสาร สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนของคุณ จะเอาไว้เล่นเกมส์ก็ได้ และบ่อยครั้งที่ผมรู้จักเพื่อนใหม่ๆ ผ่านเกมส์บน Facebook และใน Proflie จะสามารถติดตั้ง Application ต่างๆ ได้มากมายนับไม่ถ้วนกันเลย ไม่ว่าจะเป็นเกมส์สุดฮิตอย่าง FarmVille, Cafe' World, Restaurant City, CityVille, Mafia Wars, FishVille, ฯลฯ... หรือแบบทดสอบ (Quiz) กวนๆ เพื่อสร้างสีสัน เป็นกิจกรรมสร้างความสนุกสนานบน Facebook ให้เราและเพื่อนๆ ได้มีกิจกรรมในสังคมออนไลน์ร่วมกันนั่นเอง เราสามารถใช้ Application ต่างๆ เหล่านี้ในการเชื่อมความสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ๆ ได้อย่างดีเลย และยังมี Application ที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ หรือเว็บไซต์ต่างๆ อีกมากมาย
Group
หากคุณมีกลุ่มเพื่อน กลุ่มทีมงานอยู่แล้ว คุณก็สามารถสร้างเป็น Group ขึ้นมาเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารเฉพาะกลุ่มนั้นๆ การใช้งาน Group ถ้าเป็นแบบเก่า คุณสามรถส่งข้อความหาสมาชิกในกลุ่มได้ แต่ไม่เกิน 5,000 คน ถ้า Group ของคุณมีสมาชิกคนที่ 5,001 เมื่อไหร่ ฟังก์ชั่นส่งข้อความหาสมาชิกในกลุ่ม จะหายไปทันที
แต่ถ้าเป็น Group แบบใหม่ (เริ่มตั้งแต่ ตุลาคม 2010) จะไม่มีฟังก์ชั่นส่งข้อความหาสมาชิกใน Group แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ มีฟังก์ชั่นแชทกันเป็นกลุ่ม เมื่อมีสมาชิกเข้ามาโพสบนกระดานข้อความของกลุ่ม ระบบจะแจ้งไปยังอีเมล์ของทุกคนในกลุ่มให้รับทราบด้วย
Group อาจจะใช้ในการสร้างความสัมพันธ์ในทีมงาน หรือเพื่อการนัดสังสรร หรือจัดอบรมให้ความรู้กับทีม หรือให้ข้อมูลอัพเดทบางสิ่งบางอย่างเฉพาะกล่ม คุณยังสามารถตั้งค่าเป็นกลุ่มเปิด หรือกล่มปิดก็ได้ แล้วแต่ความเหมาะสม Page
ถ้าเพื่อนๆ ต้องการจะโปรโมท แบรนด์หรือธุรกิจหรือสินค้า ออกไปในวงกว้างแล้วล่ะก็ ลองใช้ส่วนที่เป็น Page ในการโปรโมทดูน เพราะ Page จะมีเครื่องมือในการทำ Marketing อยู่หลายอย่างด้วยกัน
อยากจะขอร้องเพื่อนๆ ที่กำลังทำ หรือคิดจะทำ การตลาดบน Facebook ว่า กรุณาอย่าทำแบบผิดวิธี เพราะนอกจากมันจะไม่ได้ผลแล้ว อาจกระทบถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคุณเองเลยก็ได้ เพราะคุณอาจสร้างศัตรูขึ้นมามากมาย แล้วคุณจะอยู่แบบเป็นสุขได้อย่างนั้นการทำ Marketing แล้วผู้คนรำคาญ ไม่พอใจ จะเรียกว่าเป็น Marketing ได้อย่างไร ฉะนั้นการทำ Facebook Marketing คุณควรใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับงาน ถ้าคุณใช้ของผิดประเภท ก็จะส่งผลเสียกับธุรกิจของคุณเอง ซึ่งไม่มีใครช่วยคุณได้นะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น