หลายคนที่เริ่มต้นทำการตลาดผ่าน Facebook คงอยากจะทราบว่า
การตลาดที่เราทำผ่าน Facebook ได้ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งวิธีที่คุณควรจะทำคือการ "วัดผล (Tracking)" ซึ่งวันนี้ผมจะเล่าถึงเทคนิคการวัดผลการตลาดบน Facebook กันว่ามีวิธีและเทคนิคอะไรบ้าง ซึ่งการวัดผลใน Facebook ครั้งนี้ผมของเน้นไปที่ การวัดผลจากการสร้าง "หน้า (Page)" ใน Facebook กันนะครับ ซึ่งมันเหมาะสมกับการทำการตลาดมากกว่าการสร้าง "หน้าส่วนตัว (Profile)" ที่เหมาะสำหรับเรื่องส่วนตัวมากกว่า
นี้คือเครื่องมือที่ Facebook ให้มาพร้อมกับตัวของ "Page" ที่คุณสร้างขึ้นมาทันที เป็นเครื่องที่จะช่วยวิเคราะห์แนวโน้มและพฤติกรรมของคนที่"ชอบ (Like)" หรือเข้ามาในหน้า "Page" ว่าเค้าเป็นใคร เข้ามาทำกิจกรรมอะไรบ้าง โดยสามารถเข้าเช็กข้อมูล Insight ได้ที่http://www.facebook.com/insights ซึ่งเมื่อเข้ามาหน้านี้ก็จะเป็นหน้ารวมของ "Page" ท้ังหมดที่คุณได้สร้างไว้ และสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดความเคลื่อนไหวของกิจกรรมาต่างๆภายใน "Page" ของคุณได้ทันที โดย Facebook insights จะมีข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่
1.) ข้อมูลของผู้ใช้ (Users)
เราสามารถดูข้อมูลของผู้ใช้งาน (Active User) ที่เข้ามาใน "Page" ของคุณได้โดยแบ่งเป็นรายวัน และยังสามารถจำนวนคนที่ "ชอบ (Like)"ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ (New Likes) ในแต่ละวัน รวมถึงยังดูได้ว่า มีกี่คนที่ "ยกเลิก (Remove Likes)" ในแต่ละวันได้เช่นกัน ส่วนนี้สามารถดูว่าหน้าของเราได้รับความนิยมมากได้ระดับไหน?
รวมถึงยังดูข้อมูลของผู้ที่ชื่นชอบหน้าของเราได้ (Demographic) โดยสามารถดู เพศ, ช่วงอายุ, ประเทศ-เมือง และภาษาที่ใช้ ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะทำให้เรารู้ว่ากลุ่มเป้าหมาย (Target) ของเราเป็นใคร และอยู่ที่ไหน รวมถึงยังสามารถดูได้ว่า คนที่เข้าในหน้า "Page" ของเราเข้ามามี "กิจกรรม (Activity)" อะไรบ้าง เช่น เปิดดูกี่หน้า (Page Views) หรือเข้ามาดูอะไรบ้างเช่น วีดีโอ, ภาพ หรือ ไฟล์เสียง ซึ่งทำให้เราสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ที่เข้ามา ว่าเค้ามีพฤติกรรมอย่างไร และชอบทำอะไรบ้างในหน้า "Page" ของเรา 2.) ข้อมูลการเข้ามามีส่วนร่วม (Insights)
คุณสามารถตรวจสอบได้ว่าข้อมูลที่คุณนำไปลงประกาศในหน้า "Page" มีคน "ชอบ (Like)" ติ-ชม (Comment) หรือ "ยกเลิก (Unscribes)" ซึ่งจะเป็นตัววัดว่า ข้อมูลที่คุณลงไปในหน้าได้ผลตอบรับมากน้อยแค่ไหนจากข้อมูลในส่วนนี้
บางคนอาจจะงงๆ ว่าทำไมคุณอาจจะสร้าง "Page" มาแล้วแต่ทำไมไม่สามารถเห็นข้อมูล Insight ได้ทั้งๆ ที่ผมเป็น Administrator หรือคนดูแลหน้า ซึ่งจริงๆแล้วคุณจะเริ่มเห็น Insight ได้ก็ต่อเมื่อมีคน "ชอบ (Like)" หน้าของคุณ 30 คนขึ้นไปครับ ข้อมูลส่วนนี้ถึงจะแสดงออกมา คุณสามารถตรวจสอบว่ามีคนกี่คนที่เข้ามร่วมกิจกรรมต่างๆ ในหน้าของคุณ เช่น เข้ามา "ตอบ (mentions)", "ลงประกาศพูดคุย (Disscussion Posts)", "รีวิว (Reivew)", "มาลงประกาศบนหน้า (Wall Post)" หรือแม้แต่การลงข้อมูลในรูปแบบ "วีดีโอ (Video)"ซึ่งหากข้อมูลมีน้อย นั้นหมายถึงจำนวนคนที่เข้ามา ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับหน้า "Page" ของเราเท่าไร แต่หากมีจำนวนสูง นั้นหมายถึงคนที่เข้ามา มีความสนใจในหน้า "Page" ของเราเป็นจำนวนมาก
สำหรับคนที่ต้องการนำข้อมูลเหล่านี้ไปทำรายงาน หรือการวิเคราะห์ต่อ ผมแนะนำให้ "ดึงข้อมูล (Export)" ข้อมูลออกมาโดยใช้http://www.facebookinsightsdata.com/ ซึ่งเป็นเว็บเอาไว้ใช้ในการดึงข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้ออกมาจาก Insight
หากเราพูดถึงระบบวัดผลและเก็บสถิติแล้วละก็ Google Analytics ดูจะเป็นบริการตัวแรกๆ ที่หลายๆ คนพูดถึงและเคยใช้บริการนำติดตั้งในเว็บไซต์ของตน เพื่อวิเคราะห์ยอดคนเข้าเว็บไซต์ว่ามีจำนวนเท่าไร อย่างไรบ้าง แต่คุณรู้ไหมครับ ว่า Google Analytics น้ันก็สามารถนำติดตั้ง แล้ววัดผลสถิติ คนเข้า Facebook ของคุณได้เช่นกัน มาดูกันเลยว่าทำกันอย่างไร?
วิธีการเริ่มต้นนำ Google Analytics ใส่ลงไปใน Facebook ของคุณ
1.ไปสมัครใช้บริการ Google Analytics กันก่อนนะครับ ซึ่งหากใครมี Google หรือ Gmail.com Account ก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้เลยที่ http://www.google.com/analytics หลังจากนั้นเข้าไปที่ Analytics Accounts > + Add new profile เมื่อเข้ามาแล้วกรอกข้อมูลลงไปในการเริ่มสมัครจะติดตามข้อมูลเว็บไซต์ใหม่ ในที่นี่คือ Facebook สิ่งที่เราต้องการคือ รหัสระบุตัวเว็บไซต์ จะมีลักษณะ ดังนี้UA-2520096-3
2.เนื่องจาก Facebook ไม่อนุญาติให้เราสามารถใส่ Java Script ได้ซึ่ง Google Analytics ก็จะสร้างระบบเก็บข้อมูลออกมาเป็น Java Script ซะด้วย ดังนั้นเราจึงต้องทำ รหัสที่ได้นำไปเปลี่ยนให้เป็น "ภาพ (custom image)" เพื่อที่จะสามารถนำไปใช้ใน Facebook ได้โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ http://ga.webdigi.co.uk/ กรอกข้อมูลตามด้านล่างแล้วกด "Generate Code"
3.การจะใส่โค็ดจากที่อื่นๆลงไปใน Facebook ของเราๆ ต้องไปเปิดบริการ Static FBML (http://www.facebook.com/apps/application.php?id=4949752878) เข้าไปหน้านี้แล้ว กดที่ "Add to my Page" แล้วเลือกหน้า page ที่เราอยากจะให้ Add เข้าไป แล้วกลับเข้าไปที่ Edit page แล้วไปที่เมนู FBML แล้วกดที่ Edit แล้วก็ใส่ Code ที่ได้จากข้อที่ 2 ลงไปในช่องว่าง กด Save ก็เป็นอันเสร็จพิธี
หลังจากนั้นรอประมาณ 1 วันเพื่อให้ Google Analytics เข้ามาเก็บข้อมูลใน Facebook ของเรา แล้วจะทำการรายการจำนวนคนเข้าอย่างละเอียดเชิงลึก ซึ่งจะลึกมากกว่า Facebook Insight อย่างมากเลยทีเดียว
(http://www.pawoot.com/facebook-tracking)
1.ไปสมัครใช้บริการ Google Analytics กันก่อนนะครับ ซึ่งหากใครมี Google หรือ Gmail.com Account ก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้เลยที่ http://www.google.com/analytics หลังจากนั้นเข้าไปที่ Analytics Accounts > + Add new profile เมื่อเข้ามาแล้วกรอกข้อมูลลงไปในการเริ่มสมัครจะติดตามข้อมูลเว็บไซต์ใหม่ ในที่นี่คือ Facebook สิ่งที่เราต้องการคือ รหัสระบุตัวเว็บไซต์ จะมีลักษณะ ดังนี้UA-2520096-3
2.เนื่องจาก Facebook ไม่อนุญาติให้เราสามารถใส่ Java Script ได้ซึ่ง Google Analytics ก็จะสร้างระบบเก็บข้อมูลออกมาเป็น Java Script ซะด้วย ดังนั้นเราจึงต้องทำ รหัสที่ได้นำไปเปลี่ยนให้เป็น "ภาพ (custom image)" เพื่อที่จะสามารถนำไปใช้ใน Facebook ได้โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ http://ga.webdigi.co.uk/ กรอกข้อมูลตามด้านล่างแล้วกด "Generate Code"
3.การจะใส่โค็ดจากที่อื่นๆลงไปใน Facebook ของเราๆ ต้องไปเปิดบริการ Static FBML (http://www.facebook.com/apps/application.php?id=4949752878) เข้าไปหน้านี้แล้ว กดที่ "Add to my Page" แล้วเลือกหน้า page ที่เราอยากจะให้ Add เข้าไป แล้วกลับเข้าไปที่ Edit page แล้วไปที่เมนู FBML แล้วกดที่ Edit แล้วก็ใส่ Code ที่ได้จากข้อที่ 2 ลงไปในช่องว่าง กด Save ก็เป็นอันเสร็จพิธี
หลังจากนั้นรอประมาณ 1 วันเพื่อให้ Google Analytics เข้ามาเก็บข้อมูลใน Facebook ของเรา แล้วจะทำการรายการจำนวนคนเข้าอย่างละเอียดเชิงลึก ซึ่งจะลึกมากกว่า Facebook Insight อย่างมากเลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้คือ 2 วิธีที่คุณจะสามารถวัดผลการทำงาน ของ Facebook Page ของคุณได้อย่างง่ายๆ จริงๆ จะมีวิธีและเทคนิคมากกว่านี้ แต่วันนี้เอาแบบง่ายๆ basic กันก่อนๆ ที่เริ่มเข้าสู่แบบ Advance ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการวัดผลจากระบบเก็บสถิติ จะทำให้เรารู้ถึงพฤติกรรมในเชิงลึกของสมาชิกของคุณว่าเค้ามีพฤติกรรมอย่างไรอย่างลองเริ่มทำตามแล้วเก็บข้อมูลและศึกษาสมาชิกของ Page ของคุณให้มากขึ้นนะครับ เพราะนี้คือข้อมูลพื้นฐานเลยครับในการทำการตลาดผ่าน Facebook ก่อนที่เราจะเริ่มเข้าไปสู่การตลาดใน Facebook เชิงลึกมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น