บล็อกเกอร์ นี้จัดทำขึ้นเพื่อ ศึกษาเกี่ยวกับการทำการตลาดบน Facebook เพื่อให้ศึกษาวิธีการทำและเทคนิคต่างๆ สำหรับผู้คนที่สนใจ เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาอินเตอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวัน (0012006) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

Online Marketing ผ่าน Youtube






จากคราวก่อนที่ได้กล่าวถึงการตลาดโดยใช้บล็อก(Blog) ไปแล้ว ในตอนนี้ก็จะกล่าวถึงเครื่องมือ social media อีกตัวหนึ่ง ซึ่งสามารถใช้ทำการประชาสัมพันธ์ได้อย่างดี นั่นก็คือการใช้สื่อวิดีโอคลิป หรือ วิดีโอประชาสัมพันธ์แบบปากต่อปาก (Viral Video)










การประชาสัมพันธ์ผ่านวิดีโอคลิปนี้นั้นเป็นการประชาสัมพันธ์ที่มีการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากต้องมีค่าการผลิตคลิปวิดีโอ นักแสดงหรืออื่นๆ ซึ่งทำให้วิดีโอที่ออกมานั้นต่างจากโฆษณาโดยปกติ มีความน่าดึงดูด ไม่จงใจขายสินค้าหรือบริการมากจนเกินไป และทำให้เกิดการส่งต่อไปเรื่อยๆโดยคนดูเอง
การเกิดการประชาสัมพันธ์ออนไลน์ผ่านวิดีโอคลิปนี้ เริ่มมาจากการเกิดของ Youtube ในปี 2005 ด้วยแนวคิดของผู้ก่อตั้งคือ Chad Hurley และ Steve Chen ในการสร้างเว็บไซท์ที่เอาไว้แลกเปลี่ยนวีดีโอกัน จากที่เดิมเป็นเว็บไซท์แลกเปลี่ยนวิดีโอคลิป กลับกลายเป็นว่าผู้ใช้นำวิดีโอไปฝากไว้แทนแล้วลิงก์จากบล็อกของตัวเองมายัง Youtube ทำให้ Youtube นั้นเกิดการเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นผู้ใช้บริการบางคนของ Youtube เริ่มอัพโหลดรายการทางทีวีของสหรัฐอเมริกาบางรายการเข้าไปอยู่ใน Youtube และมีคนชมจำนวนมาก ก็เริ่มทำให้บริษัทหลายบริษัทเข้ามามาสนใจการทำโฆษณาออนไลน์ผ่านวิดีโอคลิปโดยเข้าไปใช้ Youtube เป็นเครื่องมือกัน
บริษัทแรกที่่ทำคือ Nike กับโฆษณาที่มี Ronaldinho ใส่รองเท้าของ Nike เล่นฟุตบอล ทำให้คลิปดังกล่าวเกิดการส่งต่อกันอย่างมากจนกลายเป็นคลิปยอดนิยมของ Youtube ในเวลานั้น จากคลิปดังกล่าวทำให้หลายบริษัทต้องลงมาประชาสัมพันธ์ผ่านคลิปวิดีโอใน Youtube กัน หลายบริษัทอย่างเช่น Levi’s ก็ประสบความสำเร็จในการโฆษณาผ่านวิดีโอคลิปในปี 2008 ด้วยคลิปที่มีชื่อว่า Backflip Into Jeans ซึ่งเป็นวิดีโอที่สร้างขึ้นเพื่อให้เกิดการโฆษณาแบบปากต่อปากไป หรือโฆษณาแบบวิดีโอคลิปของ Nike
อีกตัวอย่างเช่น Kobe Jumps Over Car ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการประสบความสำเร็จทางการโฆษณาด้วยวิดีโอคลิปอีกเจ้านั้นได้แก่ Blendtec บริษัทที่ทำเครื่องปั่นที่ใช้กันประจำในห้องครัวซึ่งในอดีตที่มียอดขายตกต่ำจนเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงมาทำการโฆษณาด้วยรายการทางวิดีโอคลิปที่มีชื่อว่า Will it blend? แล้วทำการโฆษณาผ่าน Youtube ซึ่งในวิดีโอคลิปจะนำเสนอ การนำเสนอที่โลดโผนของเครื่องปั่นคือการนำสิ่งของมาปั่นในเครื่องปั่นจนละเอียดเป็นผุยผง ทำให้บริษัท Blendtec นั้นสามารถมียอดขายที่เพิ่มขึ้นได้ถึง 5 เท่า

อย่างไรก็ตามก็ต้องจำไว้ว่าไม่ใช่ทุกๆ วิดีโอบน Youtube ที่จะได้รับการชม การส่งต่อ หรือการบอกเล่าแบบปากต่อปาก เนื่องจาก Youtube นั้นมีวิดีโออัพโหลดต่อวันจำนวนมาก ทำให้วิดีโอของสินค้าและบริการของเรานั้นอาจจะไม่ได้ถูกค้นพบ เพราะฉะนั้นการโพสวิดีโอบน Youtube นั้นจำเป็นต้องมีเครื่องมืออื่นๆ เพื่อทำให้เกิดการกระจายของคลิปเช่นการใช้ บล็อก Facebook หรือ Twitter และการให้คำอธิบายคลิปเพื่อสื่อถึงคลิปให้เข้าใจได้ด้วยไม่กี่ประโยค รวมถึงการทำ SEO หรือการใช้คีย์เวิร์ดของคลิปให้เหมาะสมเพื่อที่จะทำให้ค้นพบง่ายขึ้น

การสร้างวิดีโอนั้นอาจจะไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงเหมือนในโฆษณาตามสื่อทั่วไป ไม่จำเป็นต้องใช้กล้องแบบมืออาชีพ เพียงแต่เนื้อหาในคลิปนั้นต้องมีแรงดึงดูดและไม่เหมือนใคร ดังคลิปต่างๆที่ยกตัวอย่างไปข้างต้น การสร้างเนื้อหาที่ดีของวิดีโอคลิปนั้นอาจจะทำให้เกิดการส่งแบบปากต่อปาก

เคล็ดลับที่ทำให้วีดีโอคลิปนั้นเป็นที่ยอมรับ
  • การทำวิดีโอคลิปให้สั้น โดยทั่วไปแล้ววิดีโอที่ประสบความสำเร็จสูงๆ นั้นมักมีความยาวประมาณ 15-30 วินาที ซึ่งหากเกินกว่านี้ควรจะตัดออกเป็นชุดๆ เพื่อให้เกิดการติดตามต่อมา วิดีโอคลิปนั้นต้องออกแบบมาให้ง่ายต่อการดัดแปลง ซึ่งเจ้าของสินค้าหรือบริการนั้นต้องยอมรับว่าจะมีการคัดลอกวิดีโอคลิปไปทำใหม่จากผู้อื่น ซึ่งยิ่งมีการดัดแปลงมากแสดงว่ามีการได้รับความนิยมมาก อย่างเช่นคลิปวิดีโอ David After Dentist นั้นมีมีคนชมกว่า 45 ล้านคนและมีการดัดแปลงจากผู้ชมคลิปเป็นรูปแบบต่างๆ กันไป
  • อย่าทำวิดีโอให้เป็นโฆษณาเหมือนโทรทัศน์ ซึ่งเรื่องนี้จะเหมือนการโฆษณาผ่าน Social Media ทั่วๆไป เพราะคนชมวิดีโอคลิปนั้นไม่ต้องการที่จะดูโฆษณา แต่ต้องการที่จะดูอะไรที่มีความตื่นตาตื่นใจและจะส่งต่อเรื่องนั้นหากมันดึงดูดความสนใจพอ อย่างเช่น Evian Roller Babies ที่มีคนดูกว่า 27 ล้านคน และหลายๆ สื่อโทรทัศน์ในไทยก็ได้พูดถึงคลิปชิ้นนี้ หรือ โฆษณาของ Dove ที่มีชื่อว่า Dove evolution ซึ่งมีคนชมกว่า 10 ล้านคน
  • สร้างกระแสด้วยการทำให้ช็อก โดยการทำให้คลิปนั้นหักมุม หรือมีเรื่องราวให้ไปคิดต่อเอาเองว่าเกิดอะไรขึ้นดังเช่นตัวอย่างคลิปโปรโมทภาพยนต์อย่าง District9 ที่ทำคลิปออกมาให้คิดต่อว่าภาพยนตร์จริงๆนั้นคืออะไร หนัาตัวอย่างวิดีโอก่อนการเล่นรวมถึงชื่อวิดีโอนั้น ควรจะสร้างให้มีแรงดึงดูดให้คนเข้ามาชมได้ จากเคล็บลับดังกล่าวก็สามารถทำให้วิดีโอคลิปของสินค้าและบริการนั้นถูกคนชมจำนวนมากได้ไม่ยาก
นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีเครื่องมือที่เอาไว้ติดตามว่าคลิปของสินค้าและบริการที่ออกไปนั้นได้ผลแค่ไหน ด้วยการใช้เว็บไซต์มีชื่อว่าTubemogul และ Vidmatrix ที่เอาไว้ติดตามจำนวนผู้ชม จำนวนผู้แสดงความเห็น และการจัดอันดับ โดยเว็บไซต์ดังกล่าวจะสามารถแสดงการวิเคราะห์ออกมาเป็นรูปแบบกราฟที่สวยงามได้ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจอันดับของวิดีโอคลิปนั้นได้จากเว็บไซต์ที่มีชื่อว่า viralvideochart.unrulymedia.com ซึ่งจะทำให้เรารู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของการชมในแต่ละสัปดาห์ได้







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น